วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ห้องสามสายตะลุย Jim Thompson Learning Camp

Jim Thompson Learning Camp
23-24 พ.ย. 2013
ปีก่อน (2012) ห้อง อ. 1/3 มีบ้างบ้านไปเที่ยวค่าย Jim Thompson แล้ว แต่เพราะว่าติดว่าท้องใกล้คลอดเลยไม่ไป ปีนี้เลยจัดอีกรอบ ชวนกันไป รวบรวมกันมาได้ 15 ครอบครัว เด็ก 23 คน ผู้ใหญ่ 43 คน ทริปนี้ เราคิดและติดต่อจองวันไปกันล่วงหน้านานมาก เพราะต้อง lock เวลาแต่ละบ้านไว้ก่อน ไม่งั้นจะหนีไปเที่ยวที่อื่นกัน นัดกันเสร็จจองที่กันเสร็จ ก็เกือบลืมกันไปเลยว่าต้องไปเที่ยวกัน


ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าที่จัดค่าย Jim Thompson Learning Camp อยู่คนละทีกับที่จัดงาน Jim Thompson ประจำปีนะคะ ที่ Camp จะเป็นที่สำหรับจัดกิจกรรมค่าย และทำฟาร์มเกษตรกรรมเป็นหลัก ซึ่งโรงเรียน หรือครอบครัวไหนที่สนใจ ก็สามารถติดต่อขอเข้าไปที่ฟาร์มได้ค่ะ  การติดต่อกับค่าย Jim ไม่ลำบากค่ะ โทรคุยกับพี่พนักงาน คุณอ้อย คุณจริยา พี่ๆน่ารักทุกคน อาจจะติดคัดบ้างเพราะพี่เค้าไม่ได้ใช้อีเมลเป็นประจำ ใช้การโทรคุยก็จะสะดวกค่ะ ทางค่ายมีโปรแกรมจัดส่งมาให้ ซึ่งก็ถึงเวลาจริงก็ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนไปบ้าง ตามเวลาและอาการของคุณลูกๆ

แต่ละครอบครัวออกเดินทางกันจากบ้านมุ่งหน้าเจอกันที่ค่ายตอนบ่ายโมง ระหว่างทางแต่ละบ้านก็ไปแวะโน้นนี้กันหลากหลายมาก บ้างบ้านไปดูค้างคาวยักษ์ตัวเท่าแม่ไก่ บ้างบ้านไปแวะกินสเต็ก บ้างบ้านก็ตรงไปที่ค่ายทันที มีหลงบ้าง หาไม่เจอบ้างกันตามอัฐยาศัย
ครอบครัวเราไปกันเป็นครอบครัวใหญ่ อากุง อาม่า เจ๊เจ๊ พอดี Aunty จาก Australia มาเยี่ยมอาม่า ก็เลยพาไปด้วย งานนี้แค่บ้านเราก็ผู้ใหญ่ 6 เด็ก 4 รวมเจ้าตัวเล็ก จ้างรถตู้ไปเลยละกัน บ้านเราออกแต่เช้า มุ่งหน้าไปที่ วังน้ำเขียวฟลอร่า ตัวเองอยากไป เลยเอาไว้เป็นที่แรก สถานที่ไม่ใหญ่อย่างที่คิดไว้ เดินดูต้นไม้ดอกไม้สนุกที่เดียว ชอบซุ้มต้นไม้ ที่มีฟักยักษ์ ม่านดอกไม้มาก ส่วนจุดอื่นๆ ก็เดินดูเล่น ถ่ายรูปกันตามปกติ


ใจจริงยังอยากไปแวะ ผาเก็บตะวัน ก่อน อยากพาฮั่นไปยิงลูกไม้ ยิงเมล็ดพันธุ์พืช ด้วยหนังสติ๊ก  แต่เพราะเวลาไม่พอ กว่าจะกินข้าวกลางวันเสร็จ ช่วงนั้นมันหยุดยาวหรือไง ไปร้านไหนก็คนเยอะไปหมด
จากวังน้ำเขียว ก็รีบไปที่ค่าย มีหลายบ้านไปถึงกันแล้ว พวกเราขับรถผ่านหน้าค่ายไปอย่างไม่รู้ตัว ต้องวกกลับมา ถึงได้เห็นป้ายอันเล็กน้อย ผ่านไปไม่ได้สังเกตเลย
ป้ายเล็กต้องสังเกตดีๆ
หรือสังเกตชื่อฟาร์มที่เป็นต้นไม้แทน

กว่าจะมากันครบ โปรแกรมกิจกรรมแรกก็เลยเลทออกไป แต่ไม่เป็นไร ว่าแล้วก็แต่ละบ้านก็ได้รับหนอนไหมบ้านละกล่อง ข้างในมีหนอนหิวอยู่ห้าตัว  จากนั้น พวกเราก็กระโดดขึ้นรถ ไปดูรอบฟาร์มกัน จุดแรกที่หยุดดู เป็นไร่หม่อน ที่แต่ละบ้านลงไปเก็บใบหม่อนเก็บกลับไปเลี้ยงหนอนไหม และเก็บมาทำเป็นอาหารเย็นของวันนี้ด้วย ได้ใบหม่อนกันคนละถุงสองถุงก็เดินทางต่อ
รถมาจอดให้พวกเราลงไปเดินฟักทองประดับจิ๋วจากในฟาร์ม เด็กๆผู้ใหญ่วิ่งกันลงไปเลือกดูกัน สวนอีกฟากมีฟักทอง 3 สี คือ มีฟักทองสีเงิน (จริงๆก็สีขาว) สีทอง (จริงๆก็สีสัมเหลือง) และสีอะไรอีกอันจำไม่ได้ ที่รู้ๆคือ พวกอากงอาม่าพากันเก็บมาได้คนละสองสามลูกใหญ่ สุดยอดจริงๆ  จากตรงนี้ รถพาพวกเราไปดูรอบๆฟาร์ม มีพืชผักที่ปลูกไว้ใช้ประดับในงานเปิดฟาร์ม Jim Thompson ประจำปี ช่วงกลางเดือนธันวาคม พวกเราตั้งใจไม่ไปช่วงนั้น เพราะกลัวคนจะเยอะ นอกจากนี้ หลังจากคุยกับพี่ๆที่ค่ายจิมแล้ว เค้าได้เพิ่มโปรแกรมให้พวกเราได้เข้าไปเที่ยวในฟาร์ม Jim Thompson และหมู่บ้านอีสานด้วยในวันถัดไป ก็เลยโอเค

เมื่อกลับมาถึง แต่ละบ้านก็แยกย้ายกันเก็บสัมภาระเข้าเต้นท์ของตัวเอง ทางค่ายมีเต้นท์อยู่สองขนาด คือ ขนาดใหญ่ กับขนาดปกติ ขนาดใหญ่จะมีเบาะที่นอนเดียวให้ 4 อัน ส่วนขนาดปกติ จะปูเป็นที่นอนให้หนึ่งอัน  มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำรวมอยู่ในบริเวณนั้นค่ะ มีน้ำอุ่นด้วย

 เด็กๆวิ่งเล่นไปแป๊บหนึ่งก็ต้องเริ่มทำอาหารเย็นกัน พวกพ่อๆและอากง ก็พาลูกๆหลานๆไปรับไก่และอุปกรณ์ทำไก่อบฟางกันบ้านละตัว บ้านไหนมาหลายคนก็ได้หลายตัวหน่อย ส่วนแม่ๆ และอาม่าก็มาทำผัดหมี่โคราช กับส้มตำ ซึ่งทางค่ายจัดชุดทำไว้เรียบร้อยแล้ว แค่ตำๆๆ และผัดๆๆก็เรียบร้อย ด้านนี้จะเสร็จเร็วหน่อย เดินไปลุ้นไก่อบฟาง เด็กๆสนุกมาก สิบกว่าบ้านทำไก่อบฟางกัน ควันตลบตลอดแนว ส่วนพ่อๆก็โชว์ฝีมือการจุดไฟ พอไฟมอดหมดฟางแล้ว ก็จะมาลุ้นกันว่าไก่สุกหรือไม่ มีเกทับแซวกันเล็กน้อย แบบสนุกๆ  พอไก่สุก ก็ได้ยกมากินกัน อยากเอร็ดอร่อย กับส้มตำและหมี่โคราช เด็กๆก็สนุก พ่อแม่ทำกับข้าวร้อนเหนื่อย หน้ามัน แต่พอเห็นเด็กๆได้สนุกได้ลองประสบการณ์ใหม่ๆ ก็มีความสุขและมีแรงเล่นกับลูกต่อ



ตอนแรก กะว่าจะทำกิจกรรมก่อนนอน แต่พ่อแม่หมดสภาพเลยแยกย้ายกันไปพักผ่อน พวกเด็กๆพอมีเพื่อนก็จับกลุ่มวิ่งเล่นกันรอบเต้นท์ วิ่งซ่อนหา วิ่งหาผี ฮั่นเองก็วิ่งตามเพื่อนซักพัก เพื่อนก็พากลับมาหาแม่ เพราะร้องไห้กลัวผี แม่ปลอบได้ซักพัก ก็กลับไปเข้ากลุ่มวิ่งเล่นต่อ ส่วนธันธัน อารมณ์แปลกที่และเห็นพี่ๆวิ่งเล่น ก็ออกมาเดินไม่ยอมหลับยอมนอน สุดท้ายแต่ละบ้านต้องต้อนลูกๆ กลับเข้าเต้นท์นอนเพื่อจะได้เตรียมตื่นเช้าสำหรับกิจกรรมวันรุ่งขึ้น เมื่อเด็กหลับ พวกพ่อๆก็เริ่มปาร์ตี้กัน คุยเม้าท์กันตามประสาพ่อๆ อีแม่ไม่ไหวเหนื่อยจับลูกก็หลับกันไป นอนเต้นท์อากาศกำลังสบายไม่ร้อนไม่หนาว


ตื่นเช้ามา หนอนไหมในกล่องของหลายบ้านเริ่มกลายเป็นดัดแด้ รังไหมแล้ว เด็กๆดูกันอย่างตื่นเต้น  จากนั้น พอรู้ว่ามีที่เล่น เด็กๆก็พากันไปวิ่งเล่นฐานกิจกรรมภายในค่าย ปกติที่นี้จะมีกลุ่มลูกเสือมาจัดค่ายและทำกิจกรรมกัน เราพาธันธันกลับมากินข้าวก่อน ส่วนปะป๊าก็ยังดูฮั่นและเด็กๆ เล่นกันอยู่ กลับมาเล่าให้ฟังว่า ฮั่นอยากเล่นเดินทรงตัวบนสะพานสูง สูงมากจนไม่น่าเชื่อว่าลูกจะกล้า ฮั่นกลัวอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ข้ามมาจนสุด ฮั่นดีใจมากที่ทำสำเร็จและเล่าให้เราฟังอย่างภาคภูมิใจ เสน่ห์ของการมาเที่ยวอย่างหนึ่งก็คือ เราได้เห็นลูกๆเติบโตและทำอะไรได้มากขึ้นกว่าที่กิจวัตรประจำวันอย่างคาดไม่ถึง ได้แต่ชื่นชมฮั่นและยิ้มอย่างมีความสุข



พอเสร็จก็กลับมาทำอาหารเช้าเอง มีวาฟเฟิล ไข่ครก ที่ทางค่ายเตรียมอุปกรณ์ และเครื่องทำไว้ให้ เด็กๆก็ได้ทำเองกินเองอย่างภูมิใจ ส่วนบ้านเราอาม่าจัดการให้เรียบร้อย กินอย่างเดียว กิจกรรมช่วงเช้า ทางค่ายสอนวิธีการทำสบู่รังไหม สกรีนกระเป๋า และทำสมูทตี้หม่อน
มองรังไหมที่อาม่ากะมามี้ทำ แล้วอยากกิน
อากุงช่วยทำสกรีนกระเป๋า


 พอทำเสร็จก็ต้องรอให้สบู่รังไหมแห้ง ทางค่ายก็พาพวกเราเดินไปดูฟักทองยักษ์ที่เอาไว้โชว์ในงานประจำปี เราก็เดินกันไป ธันธันงอแงไม่ยอมเดิน ต้องอุ้มทั้งไปและกลับ เรานี้แทบแย่เลย ขากลับหลับเลยให้พ่อมันอุ้มกลับแทน ฟักทองลูกโตมาก เด็กๆทำตามที่พี่ๆที่ค่ายขอไว้คือ ดูอย่างเดียว ห้ามจับหรือเข้าไปใกล้ แค่นี้ก็ตื่นเต้นสุดๆ 
อาม่ากะเจ๊เจ๊กับฟักทองยักษ์

 กลับมาเก็บสบู่รังไหม และแพ็คข้าวของแล้ว เตรียมออกเดินทางไปที่ฟาร์ม Jim ใหญ่ ที่ค่ายได้จัดอาหารกลางวันไว้ให้ที่หมู่บ้านอีสาน
มาถึงก็กินกันก่อนเลย เป็นบะหมี่หมูแดง ที่อร่อยมาก ที่ค่ายบอกว่า น้ำซุปหวานเพราะมีเคล็ดลับ คือใส่ใบหม่อนสับลงไปด้วย อร่อยจริงอะไรจริงนะเนี่ย กินอิ่มก็ไปเดินเที่ยวในหมู่บ้านอีสานที่เป็นสถานที่ถ่ายละครเรื่องคุณชายรัชชานนท์ เด็กๆวิ่งขึ้นบ้านนั้นลงบ้านนี้ เราขอร้องให้มีรูปหมู่กันซักหน่อย เพราะทริปเบิกบานบุรีก่อนหน้า เที่ยวเสร็จเพิ่งมาดูว่าไม่มีรูปหมู่กันเลย ได้ฤกษ์รวมพลได้แล้วก็ถ่ายรูปกันสักหน่อย ลิงน้อยธันธันไม่ได้ร่วมอยู่ในรูปเพราะสลบเมือดหลังกินข้าวเสร็จ เลยให้นอนเย็นๆในห้องอาหาร


เดินเที่ยวเล่น ถ่ายรูป ดูวิวกันเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาแยกย้ายกัน พี่ที่ค่ายพาแวะขับรถไปเด็ดมะเขือเทศตรงสวนก่อนออกจากฟาร์ม  พวกอาม่ามือโปร เด็ดกันมาได้คนละถุงสองถุง สนุกสนานได้ของฟรีก่อนกลับบ้าน บ้านเรากลับบ้านเลย อีกหลายบ้านไปเที่ยวกันต่อที่วังน้ำเขียวบ้าง เขาใหญ่บ้าง หรือแวะฟาร์มโชคชัยบ้างตามอัธยาศัย
มามี้กะฮั่นเก็บมาครับ

แวะไร่สุวรรณ


ทริปนี้ กิจกรรมแน่นมาก เด็กๆสนุกสนานได้ประสบการณ์ใหม่นอนเต้นท์ เผาไก่กินเอง ลงสวนเด็ดฟักทอง มะเขือเทศ แถมได้ทำกระเป๋าและสบู่รังไหม และมีหน้าที่ต้องดูแลหนอนไหมที่เป็นของฝากกับบ้านไป  พวกพ่อๆแม่ๆ คุยกันว่า สนุกนะแต่เหนื่อยจัง ทริปหน้าขอชิลๆ สบายๆ หน่อย ก็เลยนัดกันว่า ไปทะเลเล่นน้ำ กินๆๆนอนๆๆละกัน  เป็นที่มาของทริปอ่าวมะนาวนั้นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น