วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
ลูกๆบ้านไหนที่พูดช้า เกินสองขวบแล้วยังไม่พูดเป็นคำ มีทิปฝึกพูดมาฝาก
วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
มาหยุดยื่น Smart phone หรือ Tablet ให้ลูกกันเถอะค่ะ
อยากให้ลองคิดจินตนาการใหม่
มันมีหลายวิธีมากเลยโดยไม่ต
- การงอแงเป็นเรื่องที่คาดการ
- เด็กซนเป็นเรื่องปกติค่ะ หากอยากให้หยุดซน ต้องหาอะไรที่สนุกกว่าที่เค
- แสดงความเห็นใจลูกเพราะเขาก
- ระหว่างนั้นลองสำรวจความต้อ
- ลองเสนอตัวอ่านหนังสือที่ลู
ยืนยันว่าลูกๆชอบฟังนิทานหร
"หยุดยื่น Smart phone หรือ Tablet ให้ลูก
ลองนั่งข้างๆ แล้วอ่านหนังสือดีๆสักเล่มใ
ได้ ฟิน ทั้งลูกทั้งพ่อแม่ รับรอง"
วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
พาลูกเล่นอย่างไรไม่ขัดการเรียนรู้ลูก
"เล่นอันนี้ดีกว่าตรงนี้มันยาก" "ปีนตรงนี้เตี้ยหน่อย" "เดี๋ยวแม่ดึงตัวหนูให้"
รู้มั้ยค่ะ บางครั้งความหวังดีของเรา อาจจะไปปิดโอกาสได้เล่นได้เรียนรู้จังหวะการเคลื่อนไหวของลูกค่ะ
เด็กๆในวัยอนุบาลเป็นวัยกำลังพัฒนาด้านร่างกาย ใช้ฐานกายเป็นหลัก การได้เล่น ออกกำลังกาย หรือปีนป่ายบนเครื่องเล่นถือเป็นส่วนเสริมประสาทสัมผัสด้านการเคลื่อนไหวได้เป็นอย่างดี ที่หาไม่ได้ที่บ้าน เครื่องเล่นกลางแจ้งตามโรงเรียนส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้เด็กได้ใช้ทักษะทางร่างกาย กล้ามเนื้อมัดใหญ่ และการวางแผนการเคลื่อนไหวว่าจะว่ามือ หรือเท้าอย่างไรให้ไม่ตก หรือปีนขึ้นไปได้อย่างปลอดภัย
หากคุณพ่อคุณแม่ยังเป็นห่วงหรือกังวล ก็ควรสำรวจสถานที่เล่น และเครื่องเล่นว่าแข็งแรงดีมั้ย และเหมาะกับวัยของลูกเราหรือมั้ยเป็นอย่างแรกค่ะ ถ้าโอเคก็ควรปล่อยให้ลูกได้เล่นอย่างอิสระค่ะ
เมื่อคุณพ่อคุณแม่พยายามเข้าช่วยดึง จูงหรือลากเด็กในระหว่างเล่น ทำให้เด็กไม่ได้ลองคิดหรือทดลองว่าควรเคลื่อนที่อย่างไร ในการครั้งเล่นต่อไป เด็กๆอาจจะไม่มั่นใจ หรือพลาดได้ง่าย คุณพ่อคุณแม่ควรช่วยดูและเป็นกำลังใจอยู่ใกล้ๆอย่างใกล้ชิด และให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ลูกทำไม่ได้จริงๆ หรือในช่วงที่อาจจะเกิดอันตรายกับลูกค่ะ วิธีนี้จะไม่ไปขัดจังหวะการเล่นของลูก และยังช่วยให้เด็กๆได้ทดลองร่างกายได้อย่างเต็มทีค่ะ
เมื่อเด็กๆทำได้ดีขึ้น ควรชี้ชวนให้ลูกลองเล่นที่ยาก หรือท้าทายขึ้นอีกขั้นค่ะ โดยคุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลใกล้ชิดมากขึ้น ทำใจสบายอย่ากังวลนะคะ ลูกรับรู้ความรู้สึกเราได้ค่ะ เมื่อพ่อแม่เป็นใจ ลูกก็จะกล้าที่จะเล่นมากขึ้น เมื่อทำได้ ควรให้คำชม หากลูกไม่กล้าหรือทำไม่สำเร็จ ก็ให้กำลังใจไว้ลองใหม่ค่ะ
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกที่ซุกซนมาก ไม่กลัวอะไรเลย เล่นลุยได้ทุกที ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่มีร่างกายแข็งแรงและมีทักษะการเคลื่อนไหวดี การดูแลควรจะเป็นอีกแบบค่ะ ลองให้ลูกได้เล่นอะไรที่ช้าลง ใช้แรงมากขึ้น อยู่ที่นิ่งๆมากขึ้น เช่น การโหนบาร์ หรือปีนเชือก ที่สามารถจำกัดวงการเล่นไม่โลดโผนมาก เด็กพวกนี้จะชอบเกมที่ท้าทายขึ้น คุณพ่อคุณแม่สามารถเพิ่มเงื่อนไขในการเล่น แต่ต้องอยู่ในพื้นฐานของความปลอดภัย และดูแลใกล้ชิดค่ะ
ลองทำดู ไม่ยากค่ะ
แม่จุ๊บ DIY4kid
วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
อธิษฐานสิจ๊ะ วัน Tanabata
แม้จะเป็นตำนานความรักโรแมนติกที่แสนเศร้า แต่เทศกาลจริงสนุกสนานมากมาย และยังเป็นวันแห่งคำอธิษฐาน เด็กๆจะรอคอยวันนี้ เพื่อจะได้เขียนขอพรที่เฝ้ารอ ซึ่งเชื่อกันว่า พรที่ขอในวัน Tanabata จะได้เป็นจริง ชาวญี่ปุ่นจะตกแต่งบ้านเรือนและสถานที่ต่างๆ อย่างสวยงาม ด้วยโคมไฟ ต้นไผ่ กระดาษและเครื่องตกแต่งบนต้นไผ่ ซึ่งก็มี 7 ประเภท มีความหมายต่อพรแต่ละประเภท
Tanzaku 「短冊」ซึ่งเป็นกระดาษยาวๆ หลากสี สำหรับขอพรเรื่องการเรียนและการงาน
Kinchaku 「巾着」กระดาษรูปกระเป๋า สำหรับขอเรื่องการเงิน และกิจการรุ่งเรือง
Kamigoromo 「紙衣」กระดาษรูปกิโมโน สำหรับขอให้ทอผ้าได้ผลดี ทำอะไรก็สำเร็จลุล่วง
Toami 「投網」 กระดาษรูปตาข่าย สำหรับขอพรเรื่องการเกษตรและประมง เก็บเกี่ยวผลผลิตดี
Orizuru 「折り鶴」กระดาษนกกระเรียน สำหรับขอเรื่องสุขภาพ อายุยืน
Kuzukago 「くずかご」กระดาษรูปตาข่ายเก็บขยะ สำหรับขอให้บ้านเรือนสะอาด และเก็บเงินอยู่
Fukinagashi 「吹き流し」กระดาษตกแต่งแทนกระสวยทอผ้าของเจ้าหญิง Orihime
เด็กๆ จะเขียนขอพร และแขวนประดับไว้ตามกิ่งไผ่ ทั้งกิ่งไผ่และของประดับ รวมถึงคำอธิษฐานจะถูกเผาในตอนเที่ยงคืนหรือไม่ก็วันรุ่งขึ้น เพื่อพรนั้นเป็นจริง