วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557

รีวิวหนังสือ: เลี้ยงลูกด้วยสัญชาตญาณ

เลี้ยงลูกด้วยสัญชาตญาณ
ผู้เขียน    สุวรรณา โชคประจักษ์ชัด (ผู้แปลหนังสือขายดี คุณคือครูคนแรกของลูก)
จำนวนหน้า            120 หน้า
สำนักพิมพ์             : สำนักพิมพ์บ้านภายใน


คำนิยมปกหลังหนังสือ:
หนังสือที่ดีที่สุดและง่ายที่สุด สำหรับการเป็นพ่อแม่ที่ดีงาม บอกเล่าเรื่องราวที่พ่อแม่ควรทำ และอยู่ในวิสัยที่ลงมือทำได้ หนังสือเล่มนี้ ช่วยให้คุณเป็นอิสระจาก ข้อมูลที่มากล้น หรือกรอบทฤษฎีหรือความเชื่อ แบบหนึ่งแบบใด ช่วยให้คุณมีวิจารณญาณ ตื่นรู้ด้วยตัวเอง และมีความสุขทั้งคุณและลูก
 
"หนังสือเล่มนี้อ่านแล้ว สามารถจับต้องได้  สัญชาตญาณระหว่างพ่อ แม่ และลูกๆ นั้นมหัศจรรย์มากค่ะ หมิวเชื่อว่า หนังสือเล่มนี้จะเป็นคู่มือการเลี้ยงลูกที่ดี และมีคุณค่าสำหรับลูกและตัวคุณเอง" - หมิว ลลิตา ปัญโญภาส (ศศิประภา)
 
"เลี้ยงลูกด้วยสัญชาตญาณเป็นคู่มือเลี้ยงลูกที่จะทำให้คุณ เข้าใจรักและรักอย่างเข้าใจในตัวลูกของคุณ" - แทนคุณ จิตต์อิสระ
 
รูปแบบการนำเสนอ: 
ตัวหนังสือโตดี อ่านแป๊บเดียวจบ มีการตั้งคำถามให้พ่อแม่ค่อยถามตัวเอง ชวนคิดไปในแต่ละหัวข้อ ชอบคำคมที่แสดงในหน้าคั่น
 
ความเห็นส่วนตัว: 
มาได้อ่านหนังสือเล่มนี้ตอนที่ฮั่นเริ่มเข้าที่รุ่งอรุณมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะมีคุณครูแนะนำให้อ่าน พอเห็นชื่อผู้เขียนก็จำได้ทันทีว่าผู้เขียนเป็นคนที่แปลหนังสือเรื่อง “คุณคือครูคนแรกของลูก” (เล่มนี้ไว้มารีวิวให้ฟัง แต่ขอกลับไปอ่านอีกทีก่อนเพราะอ่านมานานมากตั้งแต่ตอนฮั่นเป็นเบบี้)  คิดว่าถ้าได้อ่านหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่ตอนลูกเพิ่งเกิด อาจจะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่พอได้เห็นแนวทางในการดูแลและการเรียนการสอนของโรงเรียน ประกอบกับเนื้อหาของหนังสือ เลยทำเข้าใจประเด็นที่หนังสือเล่มนี้จะสื่อให้ฟังได้มากขึ้น นั้นก็คือ การเลี้ยงดูลูกนั้น ทั้งหมดทั้งปวงอยู่ที่ตัวพ่อแม่ พ่อแม่คือจุดเริ่มต้นในการสร้างเด็กตามที่เราต้องการ เป็นตัวอย่างที่ดีงามของลูก ที่สำคัญโรงเรียนได้นำแนวทางมาใช้ในการดูแลลูกเรา คุณครูปฏิบัติกับลูกเหมือนพ่อแม่ โรงเรียนเหมือนบ้าน อ่านแล้วก็เลยเกทอ กับแนวทางของโรงเรียน
 
ที่บอกว่าเข้าใจมากขึ้นเพราะเห็นตัวอย่างที่โรงเรียน ก็เพราะหนังสือสื่อสารในเชิงให้คิด ประกอบการยกตัวอย่าง โดยลำดับเรื่องราวเพื่อให้พ่อแม่ได้เข้าใจ เริ่มถึงตัวเด็กคืออะไร เด็กเรียนรู้อย่างไร ส่งต่อมาถึงเรื่องเเบบอย่างองค์รวมทั้งสี่มิติของมนุษย์ ได้แก่ ความฉลาดทางร่างกาย อารมณ์ ความคิดและจิตสำนึก และอธิบายต่อในแต่ละมิติ โดยผู้เขียนอธิบายแนวคิดกว้างๆ อาจจะไม่ได้ชัดเจน หรือมีรายละเอียดถึงขั้นที่ว่ามีตัวอย่างทุกเคส หรือทุกกรณี แต่ก็พอจะเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะทุกเรื่องคือเรื่องพื้นฐานในชีวิตประจำวันของเรา ที่ผู้ใหญ่อย่างเราพ่อแม่อาจจะมองข้าม หรือละเลยไม่ได้ให้ความสำคัญ (เช่น การกินอาหาร การอยู่ร่วมกัน ฯลฯ) เหมือนเรื่องอื่นๆ ที่พ่อแม่ปัจจุบันนี้โฟกัสเหลือเกินอย่าง เช่น ให้ลูกเข้าโรงเรียนไหนดีๆ  หรือมองหาของเล่นดีๆแพง ตามสมัยวัตถุนิยม 



มีอยู่จุดหนึ่งที่แอบมีประเด็น จากชื่อหนังสือ “การเลี้ยงลูกด้วยสัญชาติญาณ” ตอนแรกนึกว่า เลี้ยงตามที่เราคิด แต่เนื้อหานั้น พยายามบอกให้ พ่อแม่ย้อนกลับไปดูตัวเองใน “เเบบอย่างองค์รวมทั้งสี่มิติของมนุษย์” ซึ่งมีผลต่อการดูแลและพัฒนาลูก และพ่อแม่ต้องปรับตัว เปลี่ยนแปลง เพื่อเป็นตัวอย่างและโค้ชที่ดีของลูกในแต่ละด้าน ผ่านการถ่ายทอดทั้งกาย วาจา และใจ  ฉะนั้น แสดงว่า ใช้สัญชาติญาณล้วนๆไม่ได้นะ พ่อแม่ต้องเข้าใจ รู้ตื่นและพัฒนาสัญชาติญาณตัวเองก่อนนะ อะไรประมาณนี้ ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า
 

  “พ่อแม่สำคัญอย่างทดแทนกันไม่ได้” 
เป็นประโยคคำคมจบท้ายหนังสือที่ชอบมาก และแสดงจุดยืนของหนังสือได้ดี เกี่ยวกับความเป็นพ่อแม่ ให้เรารู้สึกภูมิใจกับหน้าที่รับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่และไม่มีอะไร หรือใครทดแทนพ่อกับแม่ในใจลูกได้

ความน่ามีไว้ครอบครอง
น่าอ่านค่ะ ควรมีไว้ติดบ้าน เหมาะสำหรับเด็กวัยอนุบาลขึ้นไปนะ แต่แนวคิดเกี่ยวกับมิติทั้ง4 ก็ปรับใช้ได้กับทุกเพศทุกวัย อ่านง่าย อ่านได้บ่อย

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น