วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558

บทเรียนจากความสูญเสีย..จากกัน แต่ไม่จากไกล

เมื่อเห็นภาพเด็กๆร้องไห้เพราะมีสมาชิกในครอบครัว พ่อหรือแม่ หรือญาติที่สนิทต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับอย่างกระทันหัน เด็กๆที่โตพอที่จะเข้าใจถึงความตาย รู้ว่าคนที่เค้ารักต้องจากไปตลอดกาล ไม่พบหรือเจอกันอีก ใจเล็กๆของเขาคงแตกสลาย ไม่มีสิ่งใดบรรยายความเจ็บปวดหรือเสียใจได้เท่าน้ำตาที่หลั่งไหลลงมา ส่วนเด็กที่ยังเล็กอยู่ แม้ยังไม่เข้าใจเรื่องราวกับภาพคนในครอบครัวโศกเศร้ากัน แต่เด็กน้อยดูซึมๆ คงเพราะสัมผัสได้ถึงความเศร้าเสียใจจากคนรอบข้าง
การสูญเสียคนรักสำหรับเด็กๆ คงเป็นเสมือนฝันร้ายที่เข้ามาฝั่งเป็นความทรงจำสีดำๆเกาะติดอยู่ในใจของเด็กๆ
แต่ไม่ว่าจะยังไง เด็กๆ ก็ยังคงต้องใช้ชีวิต และเดินหน้าต่อไป

สิ่งนี้ทำให้จุ๊บได้ย้อนคิดว่า ชีวิตของเราสั้นนักจริงๆ หากเกิดขึ้นกับตัวเอง ลูกเราจะเป็นอย่างไรบ้างในวันที่ไม่มีพ่อหรือแม่อยู่เคียงข้างเค้าดั่งเดิม สิ่งใดจะทดแทนฝันร้ายในใจลูกในวันที่โศกเศร้าจากการสูญเสีย
เราคงต้องสอนทักษะชีวิตที่จำเป็นให้ลูกยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง เช่น ว่ายน้ำให้เป็น ทำอาหารเป็น พูดภาษาสำคัญได้ รู้จักยืดหยุ่นในชีวิต การอยู่ร่วมกับผู้อื่น พ่อเค้าคงสอนเรื่องการลงทุนและการเงิน ฟุ้งซ่านไปมากมาย

คืนนั้น ได้คุยกับฮั่นลองเชิงดู
มามี้ ถ้าเกิดมามี้กับปะป๊าไปอยู่ในที่ๆไกลมาก ไม่ได้เจอกันอีก ฮั่นจะทำยังไง
ฮั่น ก็จะไปอยู่บ้านอาม รอปะป๊ากลับมา โทรหาปะป๊าว่าจะกลับเมื่อไร
มามี้ คือไปอยู่ที่ติดต่อไม่ได้
ฮั่น ก็จะใช้เครื่องติดตามสำรวจหาไง
มามี้ เหมือนโอเมก้าไดเมนชั่น (ดินแดนที่ไปแล้วกลับมาไม่ได้ในการ์ตูน)
ฮั่น โอเมก้าไดเมนชั่นที่ขั้วโลกมันไม่มีจริง
มามี้ นั่นแหละ แบบกลับมาไม่ได้ ฮั่นจะอยู่รอดมั้ย
ฮั่น (เริ่มคิด) แล้วถ้าไฟดับ จะทำยังไง
มามี้ งั้นเดี๋ยวมามี้สอนวิธีต่อไฟให้
ฮั่น แล้วถ้าเจองูละ
มามี้ เดี๋ยวจะสอนให้ว่าทำไงจะไม่เจองู อยากรู้อะไรอีก
ฮั่น (เริ่มตาแดงๆ) โอ้ย ยากจัง คิดไม่ออก
แล้วก็เปลี่ยนเรื่องคุยไปเรื่องอื่นๆเลย

ดูเหมือนเรื่องนี้จะเป็นเรื่องยากจริงๆสำหรับเด็กหกขวบที่จะรู้ว่า เค้าควรจะต้องทำอะไรบ้างก่อนพ่อแม่จะจากไป แค่คิดว่าต้องจากกับคนที่รัก ใจเด็กน้อยฟีบเหี่ยวลง เท่าที่เด็กๆได้ยินได้รู้มา เพียงแค่ เมื่อพ่อแม่แก่ ก็จะต้องตาย ดังนั้นเป็นเรื่องที่อีกตั้งนาน และมันคงมีเวลามากกว่าพอที่เค้าจะโต และเรียนรู้สิ่งต่างๆด้วยตัวเอง

หากเราตั้งว่า เวลา คือ ตัวแปรสำคัญของโจทย์ชีวิตข้อนี้แล้วล่ะก้อ จุ๊บก็คงไม่มีปัญญาสอนลูกได้ทุกอย่าง แต่คงมีเพียงสิ่งหนึ่งที่ เราสามารถทำได้ในทุกๆขณะ สำหรับจุ๊บ มันคงเป็น "ความทรงจำที่ดีระหว่างลูกกับเรา"
เราสร้างประสบการณ์ดีๆร่วมกันกับลูก อยู่กับเค้า ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
ใช่ว่าจะต้องเอาใจหรือบำเรอลูกให้มีความสุข ต้องเปิดใจให้ลูกผิดหวังบ้าง
ใช่ว่าจะปกป้องให้เค้าไม่ต้องเจอปัญหาใดๆ แต่เคียงข้างเค้าเมื่อปัญหาเกิด และช่วยประคับประคองด้วยรัก
ในแต่ละช่วงอายุลูกต้องการเราไม่เท่ากัน แต่จะบอกรักลูกกอดหอมทุกวัน เหมือนจะไม่มีโอกาสอีก
แม่จะสร้างให้ทุกเรื่องราวของเราเป้นสิ่งมีค่า ต่อการเรียนรู้และจดจำของลูก

ก่อนเข้านอน ดูฮั่นซึมๆ เลยถามว่าเป็นอะไร
ฮั่น (หน้าเศร้าๆ) ยังงงๆ ที่มามี้ถาม
มามี้ (เลยเล่าเหตุการณ์การจากไปของญาติสนิทให้ฟัง) มามี้ก็เลยอยากรู้ว่าก่อนถ้ามามี้จะไปสวรรค์ ฮั่นอยากรู้อะไร อยากทำอะไรเป็นก่อน มามี้จะสอนให้
ฮั่น (ยิ้มเข้าใจแล้ว) ไม่ได้ มามี้ต้องอยู่เลี้ยงลูกของฉัน จนกว่าลูกจะอายุสิบขวบ ไม่เอายี่สิบขวบ ถึงจะโอเค เข้าใจมั้ย
มามี้ (หัวเราะ) ถึงตอนนั้น มามี้ก็แก่หงอมพอดี 555
แล้วกอดกันนอนหลับไป

เด็กหนอเด็ก จะปลูกความรักในใจลูก รดน้ำให้ลูกทุกวัน ถึงจากกัน แต่พ่อแม่ไม่ได้ไปไหนไกล ก็อยู่ในใจหนูนะแหละ

credit รูป: favim.com

แม่จุ๊บ
เขียนเมื่อ 16 ส.ค. 2015

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น