วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

พาเบบี้ไปทดลองเรียน ขัดใจอ่ะ มันคงไม่ใช่แนวเรา

คราวก่อนที่เขียนเรื่องไปเรียนพิเศษของฮั่น ควรนี้ขอพูดถึงธันธัน My Baby บ้าง บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆนะคะ เพราะอาจจะไม่ตรงกับความคิดเห็นของคุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่  คงเป็นเพราะเราเลี้ยงลูกคนละแนวกับการสอนของโรงเรียนมากกว่า



ทุกวันเสาร์ เราจะพาฮั่นไปเรียนภาษาอังกฤษ ก็ต้องหอบหิ้วธันธันไปด้วย ไปเล่นในห้องของเล่นที่ร.ร.  ซึ่งธันตอนนี้ขวบหนึ่งเดือน เดินคล่องมาก แต่ยังไม่ค่อยพูดหรือทำตามคำสั่งอะไร ใกล้ๆกับร.ร.ที่ฮั่นไปเรียน ก็มีร.ร.เสริมพัฒนาการของเบบี้  มีคุณพ่อคุณแม่พาลูกน้อยมาเรียนกันเต็มไปหมด ดูน่าสนใจ ไหนๆก็ว่างๆอยู่ เวลาเรียนก็ตรงกับเวลาที่ฮั่นเรียน ก็เลยลองไปดูว่าเค้าสอนอะไร ยังไง เป็นช่วงหาข้อมูล ทดลองเรียนให้แน่ใจว่าโอเคมั้ย ถ้า work ก็จะได้เอาธันไปเรียน จะได้มีอะไรทำ ดีกว่ามานั่งคอยฮั่น  

มุมของเล่นที่รร.ภาษาอังกฤษเฮียฮั่น เล่นสนุกมากมาย

ว่าแล้วก็สอบถามหาข้อมูล หลักสูตรสำหรับเบบี้เป็นยังไง สอนอะไร ที่ร.ร.อธิบายแนวทางในการสอน ประโยชน์ข้อดีที่เอาลูกมาเรียน แบบช่วยเพิ่มทักษะของลูกนั้นนี้น่าสนใจมาก  เจ้าของโรงเรียนแนะนำให้ลอง class สำหรับเด็กเดินคล่องแล้ว อายุประมาณ 1 ขวบขึ้นไป  ก็จัดไป ลองเลยละกัน ห้องเรียนกว้างมาก มีโซนที่เป็นgym และของเล่น พวก สไลด์ เบาะรูปร่างต่างๆ สีสันสดใส  มีชิงช้า Trampolineเล็กๆ  และมีโซนสำหรับทำกิจกรรมวงกลมของเด็กๆ มีคุณครูหลัก 1 ท่าน และคุณครูน้อยอีก 4 ท่าน มาช่วยประกบเด็กๆและพ่อแม่  คุณชายธันตื่นเต้นมา วิ่งเข้าไปเล่นสไลด์ และของเล่นที่อยู่ในห้องอย่างเมามัน สนุกใหญ่ เล่นได้แป๊บเดียว คุณครูก็เรียกรวมกลุ่มวงกลม คลาสเป็นภาษาอังกฤษ คุณครูหลักเป็น Filipino ฟังจากสำเนียงภาษาอังกฤษนะ ทุกครั้งที่คุณครูพูด ครูน้อยๆทั้งสี่ก็จะพูดตาม อย่างกับ Teletubbies  รู้มั้ยว่าทำไมต้องพูดซ้ำๆ เราดูก็น่าเบื่อ แต่จริงๆแล้วมันเป็นการสอนแบบหนึ่ง เคยได้ยินมาว่า (จำไม่ได้แล้วว่าที่ไหน) เด็กๆจะเรียนรู้และจดจำภาษาถ้าได้ยินคำซ้ำๆมากกว่าสามครั้งขึ้นไป เราก็ใช้วิธีนี้เหมือนกันเวลาคุยกับลูกก็พูดคำเดิมซ้ำๆสามสี่ครั้ง ได้ผลไม่ได้ผลก็ไม่รู้นะ  แต่ตอนที่ธันได้ยินเสียงประสานของพวกคุณครูซึ่งดังมาก ก็ตกใจ ผวามากอดแม่ทันที 555  นี่เป็นหนึ่งตัวอย่างของวิธีการสอนเด็กๆที่โรงเรียนนำมาใช้

ครูเรียกแล้ว เด็กคนอื่นๆก็เข้ากลุ่มอย่างเรียบร้อยรู้หน้าที่ ส่วนธัน เด็กใหม่ มิได้สนใจใดๆ ก็วิ่งไปเล่นของเล่น ครูก็มาต้อนให้กลับไปเข้ากลุ่ม ธันก็วิ่งไปเล่นอีก เป็นแบบนี้ประมาณสิบกว่ารอบ ใจจริงอยากปล่อยลูกให้เล่นของเล่นไป แต่เพราะเป็นการเข้ามาลองเรียน เราก็เกรงใจคลาส ไม่อยากให้คุณครูเสียระบบการสอนของเค้า เพราะพอลูกเราไปเล่น เด็กคนอื่นก็อยากวิ่งไปเล่นตามด้วย ก็ต้องวิ่งจับลูกมาเข้ากลุ่มด้วยความขัดใจ คิดในใจว่า ถ้าอยากให้เด็กไม่สนใจของเล่นล่ะก็ ทำไมไม่แยกห้องของเล่นกับห้องทำกิจกรรมไปล่ะ เด็กเล็กอย่างนี้ จะมาให้สนใจกลุ่มก็ลำบากนะ แต่พ่อแม่บ้านอื่นๆก็เก่งนะ จับลูกตัวน้อยมานั่งให้อยู่นิ่งๆ ทั้งๆที่ลูกร้องอยากจะเล่นจะแย่  ท่องไว้ในใจ มาทดลองเรียนฟรี อย่าอะไรมาก

กิจกรรมเริ่มไปอย่างรวดเร็ว คุณครูใช้ของเล่นมาล่อเด็กในแต่ละกิจกรรม สอนเด็กให้รู้จักชื่อผลไม้ ตัวเลข ให้เด็กทำตามเกมที่กำหนด เช่น ถ้าเป็น บล็อคโฟม ก็ต้องจับมาใส่ให้ถูกต้อง หรือพิระมิดห่วงยาง ก็ต้องให้เด็กใส่เรียงจากใหญ่สุดไปเล็กสุด เป็นต้น  แม่มันก็เริ่มขัดใจอีกแล้ว คิดในใจว่า ก็เข้าใจนะว่าเป็นหลักการในการสอนที่ถูกต้องโดยให้เด็กจดจำแบบแผนการเล่น เพื่อให้ทำตามได้อย่างถูกต้องตามวิธีที่กำหนด  แต่ส่วนตัวไม่ชอบ รู้สึกบังคับลิงน้อยของเราให้เล่นแบบมีแบบแผนเกินไป คัดกับวัยของลูก  เราชอบที่เน้นวิธีหรือ process ของการเล่นมากกว่าผลลัพธ์ของการเล่น ชอบดูลูกเอาของเล่นมาเล่นแปลกๆ มากกว่า ปล่อยอิสระให้ลูกเป็นผู้นำการเล่นมากกว่า แล้วเราก็เล่นตามเค้า หรือไกด์เค้าให้เล่นอย่างปลอดภัยเท่านั้นเอง

ระหว่างทำกิจกรรม สังเกตเด็กๆคนอื่น มีทั้งเด็กที่ทำตามอย่างน่ารัก ไม่ยอมทำบ้าง งอแงบ้าง หรือไม่สนใจเลย ธันธันไม่สนเลย อยากวิ่งไปเล่นสไลด์กับของเล่นอย่างเดียวเลย อันนี้ก็เป็นปกติธรรมดาของเด็ก แต่พอสังเกตพ่อแม่ที่ดูลูก พ่อแม่ส่วนใหญ่ดูจะเล่นกับลูกไม่เป็นจริงๆ พ่อแม่ดูไม่สนุก เหมือนมีหน้าที่ในการจัดการให้ลูกทำตามครู เด็กร้องไห้งอแงก็มีดุบ้าง หรือดึงลากลูก หรือจับมือลูกบังคับให้เล่น  เราไม่สามารถทำอย่างนั้นได้จริงๆ ไม่ชอบบังคับลูกเมื่อลูกไม่พร้อม นี่ถ้าเป็นเด็กอายุ 2-3 ขวบที่คุยรู้เรื่องก็ว่าไปอย่าง นี้มันเบบี้นะ จะไปบังคับอะไรเค้ามากมายอ่ะ เราเลยลองปล่อยให้ครูเค้าจัดการธันธัน ดูว่าจะทำยังไง ครูน้อยๆ ก็น่ารัก ดูแลเด็กๆอย่างใจเย็น พยายามตะลอมให้เด็กมาเล่น เดินไปอุ้มธันมาเข้ากลุ่ม แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้ดึงดูดธันๆ ให้กลับมาเล่นได้เท่าไร ลูกฉันนี้เทพจริงๆ

กิจกรรมมาเร็วจบเร็ว ตามสมาธิที่ยังน้อยอยู่ของเด็กวัยนี้ มีอุปกรณ์มาเสริมการเรียนการสอนตลอดเวลา มีให้ทำศิลปะด้วย อ้าวลองดู พ่อแม่พาลูกน้อยใส่เสื้อกันเปื้อนน่ารักมานั่งเก้าอี้ และจับมือระบายสีน้ำบนรูปกล้วย พ่อแม่เกือบทุกบ้านช่วยจับลูกบรรจงทำอย่างสวยงาม ส่วนธันธันนั้นหรือ นั่งโต๊ะนิ่งได้ก็ดีหนักหนาแล้ว พอจับพู่กันปุ๊บก็เอาเข้าปาก มือตะปบสี จริงๆอยากปล่อยลูกให้ทำเลอะเทอะ แต่เพราะมาทดลองเรียนฟรี ท่องไว้ในใจ จึงต้องรีบจับลูกมาเขียนพู่กันดีๆ แต่ก็ไม่ได้บังคับมาก เราจับมือธันแบบหลวมๆ ให้เค้าลากพู่กันเอง สีออกมาไม่สวยงามมากเหมือนคนอื่นที่พ่อแม่จัดให้

พอทำศิลปะเสร็จ ครูก็ให้เล่นอิสระ เป็นช่วงเวลาที่ดูธันมีความสุขที่สุด เพราะได้ปีนป่าย หัวเราะ กระโดด ได้เล่นจริงๆ ช่วงเวลาแห่งความสุขของลูกมีเพียงสี่ห้านาที ครูก็เรียกกลับเข้าวงกลม เอาปืนเป่าลูกโป่ง bubble มาเรียกเด็กๆ เด็กๆวิ่งกรูกันไปกระโดดจับ ส่วนธันธัน ยืนกอดแม่ด้วยความตกใจ เพราะไม่เคยเล่นมาก่อน ดูบ้านนอกมาก ครูน้อยๆพยายามมาชวนธันไปเล่น แต่ธันไม่ยอมกอดแม่อย่างเดียว สักพักก็เริ่มกิจกรรมใหม่ มีร้องเพลงให้เด็กทำท่าตาม เด็กทำไม่ได้พ่อแม่ ครูน้อยก็มาจับไม้จับมือให้ทำตาม ไม่ต้องพูดถึงธันธัน โน้น วิ่งไปเล่นสไลด์อยู่โน้นแล้ว พออุ้มกลับมาก็เริ่มงอแง ท่องไว้ในใจว่ามาทดลองเรียนฟรี อดทนบังคับลูกหน่อย แต่ใจอยากจะให้ลูกเล่นตามใจจะแย่  
ก่อนกลับ มีพิธีมอบประกาศนียบัตรให้เด็กคนหนึ่งที่เรียนจบคลาส มีใส่หมวกและสายสะพาย และให้เดินจับมือเพื่อนในคลาส ดูแล้วก็น่ารักดี แต่คิดว่าถ้าเป็นฮั่น ลิงน้อยจอมขี้รำคาญล่ะก็ อายุขนาดนี้คงดึงหมวก ดึงสายสะพายโยนทิ้งไปแล้ว  เกือบจะจบ ธันธันก็ยังไม่สนใจอะไรอยู่ดี 

จบการทดลองเรียน เรารีบเอาลูกไปเล่นเลย เจ้าของโรงเรียนมาคุยว่าเป็นไงบ้าง ก็บอกเค้าไปว่า ลูกยังเล็กไปค่ะ เลยไม่ค่อยมีสมาธิกับการเรียนเท่าไร พูดแบบกลางๆจะได้บอกปัดได้ถูก จะบอกว่าไม่ใช่แนวฉันก็จะดูน่าเกลียด เจ้าของบอกว่า เป็นปกติค่ะคุณแม่ น้องมาใหม่ๆก็จะไม่สนใจ แต่เดี๋ยวมาซ้ำๆ เด็กๆจะรู้เองค่ะว่าต้องทำอะไรเมื่อไร ยิ่งส่งเด็กมาเรียนเร็ว ก็จะยิ่งพัฒนาเร็วนะคะคุณแม่  เราอดใจไม่ได้เผลอถามสวนไป ที่พัฒนาการดีขึ้นนี่ เรื่องอะไรหรือค่ะ  คือสงสัยจริงๆว่าเด็กทำตามหรือเล่นตามกฏเกณฑ์ทั้งที่ไม่ใช่วัยของเค้า คือ มีพัฒนาการดีงั้นหรือ เอกสารที่เค้าให้บอกว่าช่วย  ครูตอบว่าประมาณว่า  ก็เด็กทำตามที่สอนได้ ไม่งอแง ลูกเค้าก็พัฒนาการเร็วมากแป็บเดียวก็ทำตามที่ครูบอกได้ ยิ่งเรียนเร็วยิ่งดีนะคุณแม่  เราได้แต่ยิ้มๆ ชมลูกเค้าเก่งจัง  คงไม่ใช่แนวชั้นแล้วล่ะ พื้นฐานและนิสัยของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน เด็กบางคนอาจจะเด่นเรื่องสังคม เด็กบางคนมีพัฒนาการเรื่องกล้ามเนื้อดี เด็กบางคนอาจจะพัฒนาการทางภาษาดี คงจะมาวัดว่าเข้ามาเรียนแล้วพัฒนาการดีเพราะทำตามได้ มันค่อนข้างคัดใจแม่มันจริงๆ 

วัยเบบี้ 1-2 ขวบน่าจะมีความสุขกับการเล่นของเค้า หากจะให้สอดแทรกความรู้ให้เด็ก ครูจะต้องมีความสามารถในการเรียกหรือดึงความสนใจเด็กให้ได้มากกว่านี้ อย่างโรงเรียนภาษาอังกฤษที่ฮั่นเรียน คลาสเบบี้จะเน้นให้เด็กเล่นอย่างสนุก ซึ่งเด็กกับพ่อแม่สนุกไปด้วยกันจริงๆ ในห้องเรียนมีบรรยากาศให้เด็กสนใจแต่ครู และคลาสไม่ใหญ่มาก ไม่บังคับเด็กจนเกินไป เสียดายเวลาไม่ตรงกับท่ีเราอยากให้เรียน 


สรุปว่า หลักสูตรของโรงเรียนไม่ได้ผิดอะไร แต่ไม่ใช่แนวของเรา สำหรับคุณพ่อคุณแม่ปกติทั่วไปก็คงโอเค ลูกไปเรียนได้ภาษาได้สนุก ก็โอเคค่ะ เพราะเข้าใจว่าสมัยนี้พ่อแม่ก็ไม่ค่อยมีเวลามากนักทีจะเล่นกับลูก หรือสอนหรือพัฒนาลูก โรงเรียนเสริมพัฒนาการเด็กเล็กจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ก็คงต้องดูกันไปค่ะ อย่างที่บอก จะเลือกเอาลูกไปเรียนอะไรก็ต้องดูให้ครบทุกด้าน เผอิญว่าอีแม่คนนี้มันไม่สนุกด้วยกับวิธีการเรียนการสอน ก็เลยจบ เอาธันธันไปกลับไปเล่นของเล่นที่รร.ฮั่นเหมือนเดิมดีก่า หรือจับอยู่บ้านไปช่วยทำ (ยุ่ง) สวนบนดาดฟ้าแทนละกัน ยังมีอะไรให้สนุกๆให้เบบี้ของมามี้เล่นอย่างอิสระอีกเยอะเลย

18ก.พ.2014

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น