วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ใช้เวลากับลูกให้คุ้มค่าทุกนาที เพราะไม่รู้ว่าประเทศจะแตกเมื่อไร

ทุกเช้าที่ตื่นนอน ได้เห็นลิงตัวใหญ่นอนคุดคู้ ก้นชี้ฟ้าอยู่มุมหนึ่งของเบาะ อีกฟากลิงตัวเล็กก็นอนอ้าซ่า โชว์พุงขาวอวบ จนอดใจเข้าไปฟัดไม่ได้ ถึงจะนอนไม่ค่อยสบายเพราะโดนสองลิงทั้งเบียดบ้าง ร้องกินนมบ้าง หรือต้องคอยตื่นมาดูว่าแต่ละคนกลิ้งทับกันมั้ย ตกเบาะมั้ย กิจวัตรประจำวันก็ดำเนินไปเหมือนทุกวัน ปลุกฮั่นไปอาบน้ำแต่งตัว มองนาฬิกา สายแล้ว ต้องรีบปลุกฮั่น เด็กอะไรก็ไม่รู้ขี้เซามาก ทั้งหอมทั้งจักกะจี้ เขย่า ตะโกน ขู่บังคับ ทุกอย่างกว่าจะตื่นขึ้นมาได้  ส่วนธันธัน ถ้าตื่นเช้า ก็จะพาขึ้นไปรดน้ำต้นไม้ที่ดาดฟ้า แล้วมาอาบน้ำพร้อมกับพี่ ก่อนจะส่งต่อให้อาม่าช่วยดูแล ก่อนจะออกไปส่งฮั่น และไปทำงาน  ชีวิตดำเนินไปอย่างเรียบง่ายทุกวันๆ ดูจะลำบาก แต่มันช่างเป็นเช้าที่แม่ตัวเล็กๆ อย่างเราสุดจะแฮปปี้ แสนเต็มใจที่ทำก่อนจะเริ่มกิจวัตรส่วนตัวอื่นๆ

ความสุขมันอยู่รอบตัวเราจริงๆ หาง่ายมาก วันก่อนเป็นวันเกิดของเรา ได้รับคำอวยพรมากมายจากคุณพ่อคุณแม่ เพื่อนเก่า เพื่อนแก่ และมิตรออนไลน์ ฮั่นเคยบอกว่า จะไปหาดอกไม้มาให้มามี้เป็นของขวัญ สุดท้ายลงเอยที่โดนัทรูปหัวใจ ราดซอสสตรอเบอรี่ เห็นแล้วดีใจมากไม่อยากกินเลย ส่วนพี่โหยวซื้อเตาอบมาให้หลังจากบ่นว่าอยากได้มานาน ก็เลยได้สมใจ แสนแฮปปี้มีความสุข แม้จะไม่มีปาร์ตี้ฉลอง ไม่มีเทียนหรือเพลง Happy Birthday (พี่โหยวก็ถามว่าต้องมั้ย แบบว่าเตรียมมาเหมือนกัน เราบอกไม่ต้องแหล่ะ)  ยิ่งโตก็ยิ่งไม่ค่อยต้องการอะไรมากมาย เพราะแค่ได้ใช้ชีวิตกับทุกคนในครอบครัว ทุกคนมีความสุข ก็พอใจและสุขใจมากแล้ว

ยิ่งช่วงนี้ เพิ่งมีข่าวการสูญเสียของคุณพ่อคุณแม่ที่ลูกทั้งสองต้องจากไปเพราะระเบิดของใครไม่รู้ในที่ชุมนุม คิดว่าไม่เพียงแค่เราเท่านั้น แต่หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ทุกคนคงจะรู้สึกเลวร้ายมากกับเหตุการณ์นี้  เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่ยากจะเยียวยา ปกติจะชอบคิดว่าถ้าเกิดเป็นตัวเราในเหตุการณ์โน้นนั้นนี้ ฉันจะทำยังไงดี สำหรับเคสนี้ ขอไม่คิด เพราะคงทำใจไม่ได้ ที่จะไม่ได้เห็นลิงทั้งสองมานัวเนีย วุ่นวาย งอแงอยู่ใกล้ๆ หรือตื่นนอนมาแล้วไม่ได้กอดหรือหอม ฟัดลูกอย่างเมามัน จะมีอะไรมาแทนสิ่งเหล่านี้ได้ แม้มีเงินทองล้นฟ้าก็คงไม่เทียบเท่า  ขอแสดงความเสียใจกับคุณพ่อคุณแม่และครอบครัวของน้องทั้งสองด้วยความจริงใจ

เหตุการณ์โหดร้ายที่มีกับเด็กที่เพิ่มมากขึ้นในทุกวันนี้  มันทำให้เราอยากจะใช้ช่วงเวลาที่อยู่กับลูกในช่วงวัยเด็กอย่างมีคุณค่าและมีคุณภาพทุกนาที เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ดีร้ายยังไง ประเทศนี้ปลอดภัยพอมั้ยสำหรับเด็กๆ ไม่มีใครรับประกันได้เต็มปาก ครั้นจะย้ายประเทศหนี เหมือนที่ฮั่นชอบบอกว่าจะไปอยู่ประเทศอังกฤษ เพราะว่าที่นั้นเย็น ไม่มียุง และไม่มีซอมบี้ (ฮั่นเข้าใจว่า ซอมบี้มีแต่ที่อเมริกา จากเกมที่พ่อเล่น) ก็คงไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น

หรือจะย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น กรุงเทพมัน shutdown ไปแล้ว เป็นเมืองที่มีคดีและปัญหายาเสพติด แถมเคสทำร้ายเด็ก ลักพาตัวเด็กเยอะเหลือกัน  ก็คงไม่พ้นไปเจอการเมืองท้องถิ่น หมู่บ้านนี้สีนี้ ตำบลนี้ของส.ส.คนนั้น ภาคนี้สีนี้ ภาคนั้นสีโน้น ความแตกแยกขัดแย้งกับทางความคิด ความชอบของผู้ใหญ่ ของประเทศ มันส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือน และเยาวชนอย่างแทรกซึม ฝั่งราก อย่างไม่รู้ตัว  ลองคิดสภาพว่า บ้านไหนที่เป็นเสื้อแดง พ่อเปิดช่องเสื้อแดง ก็ด่าเสื้อเหลืองและ the rest กันไปอย่างมากมาย ก็ไม่ต่างอะไรกับบ้านไหนที่ดู Blue sky  สื่อเองกลายเป็นเครื่องมือในการสร้างความเกลียดชังและความแตกแยกในชาติ อย่างที่ไม่มีใครมาควบคุมดูแลได้  โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ social media และอีกมากมาย ถ้าคนรับสื่อ เสพสื่ออย่างไม่มีวิจารณญาณ ก็มีโอกาสตกเป็นเหยื่ออย่างไม่รู้ตัวของบรรดาแกนนำ หรือผู้อยู่เบื้องหลังจากสร้างเหตุการณ์ทางการเมืองของไทยในปัจจุบันนี้

สงครามเย็นๆ แต่ไม่ชิล ในประเทศมาอยู่ที่ปลายนิ้วมือ ที่ถือมือถืออ่าน FB หรือ Twister แล้ว

ย้อนกลับไปดูลูกหลานของเรา
ไม่รู้เด็กๆจะเข้าใจมั้ยว่า ทำไมตอนนี้ถึงฮิตใส่เสื้อ ใส่ที่คาดผ้าลายธงชาติ
เด็กๆจะเข้าใจมั้ยว่าทำไมที่สอนให้กินข้าวให้หมด ต้องสงสารชาวนา แต่ชาวนาขายข้าวกับไม่มีเงินไม่มีกิน
เด็กๆที่อยากเป็นตำรวจอยากเป็นทหารดูแลประชาชน แต่ทำไมประชาชนไม่ได้รับความปลอดภัยหรือได้รับการดูแลจากพวกนั้นเลย
เด็กๆจะรู้มั้ยว่าที่ชุมนุม ไม่ใช่ที่ช็อปปิ้ง ที่กินข้าว หรือฟังเพลง และมันก็ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
เด็กๆ จะรู้มั้ยว่า ตัวเองกำลังจะมีหนี้ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ เพราะประเทศกำลังจะล้มละลาย
ถึงเด็กๆจะไม่รู้ แต่หวังว่าผู้ใหญ่ต้องเข้าใจ และต้องทำให้สภาพในปัจจุบันนี้มันดีขึ้น อย่างแรกเลยค่ะ  จะไม่มีเด็กต้องตกเป็นเหยื่อของความขัดแย้งของผู้ใหญ่

วันนี้มามี้ใส่เสื้อตัวนี้ “Please Respect My Future” จริงๆมันสำหรับเด็กๆ ใส่ แต่รู้ว่าเฮียฮั่นเลือกมากคงไม่ใส่แน่นอน มามี้เลยซื้อมาใส่เองละกัน มันเป็นคำที่ช่างสะท้อนสภาพสังคมในตอนนี้จริงๆ  แบบผู้ใหญ่ทำอะไรกัน ช่วยคิดกันด้วยว่าอนาคตฉันจะเป็นยังไง จะมีประเทศให้อยู่มั้ย


ทำงานเสร็จวันนี้ จะรีบกลับบ้านไป ขอกอดรัดฟัดเหวี่ยงลูกไม่สนใจใคร มามี้สัญญาว่าจะทำทุกวันของเราให้มีความสุข สนุกสนาน อย่างมีคุณภาพ ทำทุกวันให้เป็นเหมือนวันสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน



เกิดสงครามพันครั้ง 
เด็กก็ยังสวยงาม
เป็นเพียงแค่สงคราม 
ความเดียงสาเท่าเดิม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น