วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557

เด็กเลือกมาก จัดการลิงแบบ win win

ปลายปี 2013 ต่อปี2014 ในวันที่ความหนาวเย็นยังไม่จากกรุงเทพไป (อะไรกัน สิบกว่าองศา บ้าไปแล้ว) อากาศช่างเย็นยะเยือกต่างกับทุกปี แต่เหตุการณ์ที่เกิดเป็นประจำทุกวันคือ แม่ลูกชายทะเลาะกันเรื่องเสื้อผ้า ขอย้ำว่าเป็นลูกชาย ที่ช่างเลือก เรื่องมากมายเหลือเกิน เราพยายามพูดโน้มน้าวให้ใส่เสื้อแขนยาว เพราะเสื้อหนาว jacket สีส้มตัวเดียวที่ฮั่นยอมใส่ถูกเอาไปซัก
เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ที่แม่อย่างเรากำลังเจออยู่ 
- ฮั่นขี้รำคาญ ไม่ชอบใส่กางเกงขายาวเสื้อแขนยาว จึงไม่ได้ซื้อเพิ่ม 
- เสื้อแขนยาวที่มีอยู่ ยอมใส่อยู่แค่ 2 ตัว คือ jacket สีส้ม กับเสื้อเชิ๊ตชุดแต่งงาน (ฮั่นเรียกอย่างนี้เพราะเอาไว้ใส่ไปงานแต่งงาน) 
- กางเกงขายาวที่มีอยู่ ยอมใส่อยู่ 1 ตัว เฉพาะเวลามีงานที่โรงเรียน
- กางเกงที่ใส่ เป็นขาสั้น ใส่อยู่ 5-6 ตัว จากที่มีอยู่ เต็มตู้ สีไม่ชอบ ผ้าไม่นุ่ม ลายไม่โดนไม่ใส่
- ฮั่นมีชุดนอนแขนยาวขายาวเยอะมาก แต่จะใส่นอนอย่างเดียว ต้องเป็นเซทเดียวกันด้วย
- ฮั่นชอบสีส้ม ขาว และน้ำตาล แต่ยอมใส่สีส้ม กับขาว นอกนั้นขอดูลายก่อน
- ฮั่นชอบลายรถ แต่เป็นเฉพาะบางประเภท ต้องเลือกเองเท่านั้น เช่น รถตักดิน รถ construction รถตำรวจ มีเพิ่มมาที่ไม่ใช่รถ คือ angry bird แต่ เน้น *ต้องลายที่ตัวเองเลือกเท่านั่น*
- ฮ่ันเคยชอบเสื้อลายไดโนเสาร์ ตอนนี้ไม่ชอบแล้ว และไม่ใส่เลย
- เสื้อเล็กนิดหน่อยใส่ยาก ฮั่นไม่ใส่
- เสื้อมีรู มีรอยสกปรก หรือยับไม่ใส่ ยกเว้นเป็นเสื้อตัวโปรด
- เสื้อโปโล หล่อๆ ไม่ใส่ ร้อน
- เสื้อกล้าม ไม่มีแขน ถึงจะชอบลายก็ไม่ใส่
- เสื้อกางเกงผ้าไทย ฮั่นไม่ชอบ ไม่ใส่
- เสื้อที่ยอมใส่มีแค่ 5-6 ตัว จากเสื้อผ้าเต็มตู้
- ถุงเท้ายอมใส่ แต่พอเหง่ือออกเท้า จะถอดทันที
เสื้อแต่งงานตัวโปรด


ที่นี่ เหมือนเล่นเกมตัดออก ยิ่งอากาศหนาวๆ ทางเลือกก็ยิ่งลดลง เราก็ยังไม่มีเวลาพาฮั่นไปซื้อเสื้อหนาวเพิ่ม เพิ่งได้กางเกงขายาว มีลายเฮลิคอปเตอร์ ที่ฮั่นโอเคยอมใส่มาเพิ่ม ก็ดีใจมากแล้ว (เดินดูโลตัสแถวบ้านเป็นชั่วโมงได้ของที่ยอมใส่มา2 ตัว)  
ประเด็นคือถ้าแม่เลือกให้ก็คงเสร็จไปนานแล้ว 
เลยเสนอฮั่นว่า เอาเสื้อนอนแขนยาวมาใส่ข้างในแล้วเอาเสื้อที่นายชอบสวมทับข้างนอกสิ เหมือนเด็กญี่่ปุ่นเลย เค้าใส่อย่างงี้กันนะ
ฮั่น: ฉันไม่ชอบ มันเป็นเสื้อนอนต้องใส่นอน แล้วพอใส่ไปมันก็คันด้วย
(ปกติคุยกับฮั่น จะแบบเพ่ือนกัน ใช้ฉันกะนาย)
เรา: แล้วนายจะใส่อะไร เอาเสื้อหนาวเจ๊เจ๊มั้ย (มีตัวหนึ่งมันสีน้ำเงินเข้ม แบบผู้ชาย) 
ฮั่น: ไม่เอา
แม่มันเสนออีกหลายตัว เริ่มปวดตับจี๊ดๆ ธรรมดาอากาศปกติ ชวนให้ใส่เสื้อตัวอื่นบ้าง บอกไอ้ตัวที่ใส่อยู่ มันเก่าจะแย่แล้ว ตัวที่ไม่ค่อยได้ใส่จะน้อยใจนะลูก แหมทำไมตอนนั้นอยากได้เสื้อไดโน มามี้ก็ไปหาซื้อมาให้ มีทั้งซื้อเสื้อขาวมาปักรูปไดโนเสาร์ให้ใส่สองตัวเดี๋ยวนี้ไม่เห็นใส่เลย เสื้อตัวนี้อาม่าไปเที่ยวมาคิดถึงฮั่นซื้อมาให้สีส้มด้วยนะ (แต่เป็นรถเต่าฮั่นไม่ชอบเลยไม่ใส่)  หรือไม่ก็ขู่บอกจะเอาไปให้ธันธันใส่นะ บลา บลา บลาาาา ปวดตับอยู่ ทุกวันเพราะสุดท้ายคุณชายก็ใส่ตัวเดิม มันเป็นอย่างงี้มาตั้งแต่ฮีเริ่มพูดรู้เรื่อง skillการต่อรองพัฒนาจนแม่มันงัดตำรามาสู้ไม่ทัน ไว้จะมาเล่าเรื่อง ฮั่นต่อรองให้ฟังที่หลัง
เรา: งั้นใส่เสื้อแล้วเอาเสื้อแต่งงานใส่ทับได้มั้ย
ฮั่น: โอเค
กว่าจะตกลงกันได้

คิดว่าหลายบ้านคงเจอสภาพไม่ต่างกัน จริงๆแล้วถือเป็นพัฒนาการด้านหนึ่งของลูก เด็กๆเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง และเป็นอิสระทางความคิดจากพ่อแม่ ไม่เหมือนตอนเป็นเบบี้ ที่จะหยิบใส่อะไรก็ได้ไม่งอแง (แต่ฮั่นถ้าใส่ไม่สบาย จะร้อง หรือถอดทันที ฮีเยอะมาตั้งแต่เด็ก) การจะไปเร่งให้เค้าคิดตัดสินใจก็ไม่ใช่way ที่เราชอบ เพราะ เด็กๆก็ต้องการเวลาในการนึกตรึกตรองเหมือนผู้ใหญ่เช่นกัน การชี้นิ้วสั่งก็ไม่ใช่ way เราเช่นกัน เพราะอยากให้ลูกมีความคิดเป็นของตัวเอง มั่นใจในสิ่งที่เค้าเลือกจะทำ ไม่อยากให้เหมือนแม่มันเพราะชอบทำตามคนอื่นไม่ค่อยมีจุดยืนเป็นของตัวเอง ส่วนตัว คิดว่า นี่เป็นจุดเล็กๆในการสร้างเสริม self esteem และความคิดสร้างสรรค์ของลูก  ดูอย่างที่เด็กหลายคนชอบเอาเสื้อผ้าพ่อแม่มาใส่หรือ mix upแต่งตัวเล่นประหลาดๆ เราชอบนะ และอยากส่งเสริม เด็กกำลังเล่นบทบาทสมมติ ด้วยจินตนาการ คิดสร้างสรรค์อยู่ เม่ือลูกได้คิด สมองก็ได้ทำงานและเจริญเติบโต ตามลำดับ  ไม่น่าเชื่อนะว่า การเลือกการแต่งตัวจะช่วยในเรื่องของการพัฒนาสมองได้ แต่มันเป็นเรื่องจริงค่ะ โรงเรียนทางเลือกส่วนใหญ่ มุ่งเน้นให้เด็กๆเกิดการเรียนรู้ จากการทำกิจวัตรประจำตัวหรือมีของเล่นไม่ปรุงแต่ง เช่น บล็อคไม้ ผ้าผืน ไหมพรม ( พวกของเล่นปรุงแต่งก็พวก ชุดตรวจหมอ ชุดขายของ) ให้เด็กเล่น ไม่เพิ่งแต่เสริมสร้างกล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่แล้ว ยังให้เด็กต้องคิดว่าจะเอามาเล่นยังไง เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กๆได้คิดเยอะๆ และสามารถต่อยอดการเล่นเป็นการเรียนรู้ได้ 


เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ แต่ ต้องบอกว่า พ่อแม่ต้องเตรียมกายใจอย่าให้เรื่องนี้มาทำให้อารมณ์เสียยามเช้า ในช่วงรีบเร่ง ก่อนจะไปโรงเรียน หรือทำงานสาย เพราะคุณลูกไม่เพียงแต่เสียเวลาเลือกเสื้อผ้าแล้ว ยังจะโอ้เอ้ต่อเน่ืองรามไปถึงจะเลือกกินอะไรดี และอีกมากมาย  ส่วนตัวเองนั้น จะมีวิธีบริหารความมากมายของลูกเพื่อให้ทันเวลาสั้นๆง่ายๆ คือ
1. เตรียมไว้ล่วงหน้า ยิ่งรู้ว่าลูกช้า เลือกมาก ก็ให้เวลาเค้าเยอะๆ ให้มันเลือกทั้งคืนเลยจนพอใจ แต่ต้องสัญญานะว่าจะต้องใส่ไม่เปลี่ยนใจพรุ่งนี้เช้า
2. ช่วยลดทางเลือกให้ลูก เช่น ให้ลูกเลือกในสิ่งที่เราช่วยเลือกแล้ว 1 ใน 2 หรือ 3 จะได้เร็วขึ้น
3. ให้เค้ามีส่วนในการเลือกหรือตัดสินใจตั้งแต่เริ่มต้น 
4. บอกล่วงหน้ากับลูกผลที่จะเกิดถ้าเค้าใช้เวลาเยอะเกินไป และต้องปล่อยให้มันมีผลกระทบกับเค้าจริงๆ เช่น ถ้าช้า ไปสายอดเล่นกับเพ่ือนหรืออดทำอะไรที่เค้าชอบหรือสนใจ ก็ลองให้มันสายไปเลย 
5. ช่ืนชมเวลาลูกสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและเหมาะสม ถึงจะขัดใจแม่ไปหน่อยแต่ถ้าไม่ได้เสียหายก็ปล่อยๆไปค่ะ

ระหว่างที่ใส่เสื้อไป เราบอกฮั่นว่า ยังไงก็ต้องไปซื้อเสื้อหนารด้วยกันนะ ไม่งั้น ฮั่นจะไม่หายหวัดซักที ฮั่นบอกไป เซ็นทรัลกันมั้ย มันอาจจะมีsale อยู่ก็ได้นะ แหมเด็กบ้า รู้ทันแม่อีก 
สรุปเช้านั้น เอาเสื้อหนาวแม่มันให้ใส่ไปโรงเรียนแทน

24 jan 2013

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น